กล่าวยังไง ให้ลำพองใจผู้ฟัง ให้เขารักเรา

[Ailie662]

1. เริ่มประโยค ด้วยความเป็นกันเอง

บางครั้งอาจจะเป็นการไต่ถามส า ร ทุกข์สุกดิบด้วยความปรารถนาดีและก็ตั้งใจในคำตอบของเขา อย่าลืมใช้คให้ำอ่อนโยน สมควร และก็นุ่มนวลด้วยนะคะ "เป็นยังไงบ้ า งหยุดย า วที่ผ่านมา

ท่องเที่ยวไหนมาบ้ า งค่ะ" การใช้ความคุ้นเคยจะก่อให้อีกข้างรู้สึกผ่ อ น คลายรวมทั้งเป็นมิตรด้วยนะคะ อีกหัวข้อเป็นอวัจนะภาษาค่ะ ลักษณะท่าทางการพูดที่ถูกถ่ายทอดออก


โกรธแค้นหว่างดวงตาเราหรือการสัมผัสบางสิ่งบางอย่างได้แก่ การแตะไหล่เพื่อให้กำลังใจ การจับมือเพื่อปลอบโยนปะโลม ปรบมือให้เพื่อพลังใจ ก็เป็นสิ่งที่จะทำให้ท่านและก็เค้าเข้าถึงกันได้ง่ายมากกว่าเก่า

2. ฝึกบอก คำว่า"ไม่" แล้วชีวิตคุณจะ "ใช่"

เพราะว่าคำว่า"ไม่" มันบอกให้ดูดีย า ก พูดให้ความหมายเป็นบวกได้ย า กมากมาย คำบางคำเป็นคำที่มักประยุกต์ใช้ทำร้ า ย จิตใจคนอื่น แสดงถึงความรู้สึกไม่พึงพอใจในตัวเขาหรืองานของเขา ผู้คนจำนวนมากใช้คำนี้จนกระทั่งเคยตัวซึ่ง

ไม่เป็นผลดีกับตัวคุณเองเลยล่ะค่ะ อย า กให้ลองเปลี่ยนการใช้มันดูนะคะ เช่น "ลองทำอย่างนี้ดูดีไหม" "อย่างนี้ดีแล้วนะ ถ้าหากเพิ่มส่วนนี้อีกหน่อยคุณมีความรู้สึกว่าจะคืออะไรขา" แปลว่า เราไม่ได้ไม่ยอมรับความคิดของอีกข้างแต่ว่าทดลองเสนอแนะเพิ่มเติมอีกเปรียบเสมือนการเสนอแนะเขา

3. มองดูให้ได้ 3 มุม

การพูดเป็นเช่นดาบ 2 คม ไม่ทิ่มแ ท ง เค้า ก็ย้อนกลับมาแ ท ง ที่ตัวเราเอง "สติ"อย่างเดียวบางทีอาจไม่เพียงพอ คุณจะต้องฝึกขั้นตอนการการคิดอย่างมีสติสัมปชัญญะแล้วก็พินิจพิจารณาไปพร้อมๆกันด้วยค่ะ

ดูว่าธรรมชาติของเค้าเป็นคนยังไง เรื่องไหนควรพูด เรื่องไหนไม่สมควรพูด แม้กระนั้นที่สำคัญไปๆมาๆกกว่านั้น ทุกคราวถ้าหากจะมีการต่อว่า ตัดเตือน ปรับแต่งข้อผิดพลาดของงาน ให้ทดลองมองดูให้ได้ 3 มุม


1. มุมของพวกเรา : เราเห็นว่ายังไง ในตำแหน่ง หน้าที่พวกเรา เราควรดูแบบไหน แก้ไขปัญหาอย่างไร


2. มุมของเค้า : ถ้าหากเราเป็นเค้าเราจะทำยังไง หากพวกเราตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน โดนแบบงี้เหมือนกันพวกเราจะรู้สึกอย่างไร แล้วเราจะจัดการกับปัญหานั้นแบบไหน

3. มุมของบุคคลที่3 หรือผู้อื่นที่มอง 2 คนนี้อยู่ : เค้าทำอะไรกัน ปัญหาคืออะไร เล็ก ใหญ่ขนาดไหน ขนาดที่จำเป็นที่จะต้องทะเลาะกันเลยแบบงั้นหรือ ทะเลาะด้วยประเด็นนี้เหตุผลมาจากอะไร เป็นต้น

ถ้าหากคุณมองให้ได้ครบทุกมุม คุณจะมองเห็นทุกด้านของความคิด เข้าใจเค้า เข้าใจพวกเรา เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

4. อย่าตำหนิใครกันแน่ ต่อหน้าผู้อื่น

ไม่มีผู้ใดชอบการเช็ดกต่อว่าจ้ะ พวกเราก็เช่นเดียวกันใช่ไหมล่ะคะ ยิ่งโดนด่าทอต่อหน้าคนอื่นๆด้วยแล้วล่ะก็ มันช่างเ จ็ บ โกรธแค้นแสนรุนแรงเสียอย่างมากจริงๆการด่าคนใดซึ่งๆหน้าผู้อื่นมันเป็นการตั้งใจฉีกหน้าเค้าให้พังทลายยับจำพวกที่เรียกว่า

คนที่โดนด่านั้นจะจำฝังใจไปจนวันต า ย เลยทีเดียว แล้วก็ความเกี่ยวข้องระหว่างคุณและเค้าจะเสียไปในทันทีทันใด ท้ายที่สุดแล้วไม่มีข้างไหนชนะ ไม่มีใครได้ประโยชน์จากวิธีการทำแบบนี้ค่ะ ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้วถ้าหากไม่ใช่เรื่องที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อส่วนรวมแนะนำว่าไม่สมควรทำอย่างมากค่ะ

5. มีนายช่างฝีมือชม

ชมเมื่อเค้าทำดี ปฏิบัติงานได้ดี ช่วยเหลือคนอื่น ส่งผลงานที่ดี ประพฤติชอบ คุณก็ควรจะดูเค้าด้วยความบริสุทธิ์ใจที่ปรารถนาดี คำพูด คำจา น้ำเสียงที่ดี เค้าหน้าปลื้มใจพลอยยินดีไปกับเค้าด้วย ด้วยเหตุว่าสิ่งกลุ่มนี้มีผลต่อความรู้สึกมากมายนะคะ ผู้ที่ถูกชมเค้าจะเหมือนได้รับของขวัญพิเศษจากคุณ ทำให้มีแรงกระตุ้น มีพ ลั ง ที่จะทำสิ่งนั้นให้ดีเยี่ยมๆขึ้นไป

การมีนายช่างดูที่ดีนั้น ไม่มีความจำเป็นจะต้องดูที่ผลงานของเค้าแค่นั้นจ้ะ อย า กให้ทดลองดูความน่ารักของเค้า ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความใส่ใจที่เค้ามีต่อคุณ ดูอาภรณ์


ชมพาหนะ ดูกระเป๋าถือเค้า หรือสิ่งบริเวณตัวเค้า เพียงเท่านี้ก็เป็นการสร้างความสบายให้เค้าได้แล้ว รวมทั้งเค้าจะเกิดภาคภูมิใจกำเนิดความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเอง แล้วเขาจะรักเรา หากแม้เคยเป็นศั ต รู กันโกรธไม่มองหน้ากันก็จะหายโกรธเราจ้ะ ทดลองดูนะคะ

6. อย่ารั ก ษ า ความเอื้อเฟื้อด้วยการพูดอะไรที่มันไม่จริง

บางบุคคลรู้ผิดว่าการกล่าว"รั ก ษ า น้ำใจ"เป็นการพูดในสิ่งที่มันไม่จริงเพื่อเค้ารู้สึกดี และบางเวลาคนเรา ก็ชอบที่จะ "รั ก ษ า ภาพพจน์"(ที่ไม่จริงของตัวเอง)มากยิ่งกว่ารั ก ษ า น้ำใ

ก็เลยเลือกพูดไปในสิ่งที่มันไม่จริงเนื่องจากกลัวว่าถ้าพวกเราพูดเรื่องจริงไป"เราจะดูไม่ดี และก็ครั้งคราวก็รั ก ษ า ความมีน้ำใจ ด้วย"การไม่บอก" ซึ่งทั้งการพูดอะไรที่มันไม่จริงแล้วก็ทั้งการไม่บอก

มันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำจ้ะ เพราะว่านอกเหนือจากจะเป็นเสมือนการส่งเสริมการกระทำของเค้าแล้ว ทำให้เขาไม่รู้ตัว แถมยังหลงเหลิงว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูกต้องก็ดีแล้ว

"คิดทุกคำก่อนที่จะบอก แต่ว่าไม่จำเป็นต้องกล่าว ทุกคำที่พวกเราคิด" น้อยเกินไปค่ะ ต้องเลือกใช้คำที่จะพูดให้สมควรด้วย

7. เจอคำถามที่ต้อง "ฟั น ธง" หรือ "ตกลงใจ" อะไรบางอย่างแล้วพวกเราไม่แน่ใจ ตอบยังไงให้ดูดี

ถ้าหากจะต้องมีการตอบคำถามที่เป็นปัญหาปลายปิด "ใช่" หรือ "ไม่ใช่" ควรจะหรือไม่ควรจะ ดีหรือไม่ดี คุณคิดเช่นไร ต้องทำเช่นไร พบคำถามเหล่านี้แล้วพวกเราไม่ทราบหรือเปล่าแน่ใจในคำตอบ

ปัญหาก็คือถ้าหากพวกเราไม่ตอบ เราก็มองแ ย่ หากเราตอบแล้วตอบไม่ถูก ก็ดูแ ย่ ไม่แพ้กัน ด้วยเหตุนี้ลู่ทางของเราให้พวกเราแถได้แบบแถแล้วดูดี หลักมันอยู่นี้ค่ะ


⁃ คำตอบของคุณต้องไม่ไปอ้างอิงผู้ใด ไม่เป็นการติเตียนคนใดกันแน่


⁃ ใช้เหตุส่งผลมารองรับ จะให้น้ำ ห นั ก กับคำตอบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอบช้าๆได้ค่ะ ช่างเถอะ ค่อยๆใช้สมอง ตอบอย่างมีสติ กำหนดถึงเหตุผลที่ไปที่มาให้แจ่มแจ้ง

⁃ คุณสามารถอธิบายได้นะคะในบางเรื่อง ว่าเรื่องนี้"ไม่เกี่ยวกับเราโดยตรง" ด้วยลักษณะงานแล้ว "ฉันอย า กช่วยมากๆเลยจ้า เลยอย า กแนะนำให้ทดลองปรึกษาทาง... จะได้คำตอบที่แน่นอนกว่านะคะ" นี่เป็นการปฏิเสธแบบรั ก ษ า ความเอื้อเฟื้อ

⁃ ถามกลับไป ทวนคำถามเพื่อ พินิจพิเคราะห์มุมมองของเขา แล้ว"คุณคิดอย่างไรบ้ า งขา" แต่ว่ากรณีนี้พวกเราต้องมีการเสริมความเห็นของเราลงไปบ้ า งนะ เค้าจะได้รู้สึกได้ว่าเรากำลังพย า ย า มช่วยหาคำตอบอยู่

⁃ หาคำตอบมาให้ภายหลัย คุณสามารถตอบในลักษณะที่ว่า "ดิฉันรู้แต่เพียงว่า... ส่วนที่เพิ่มเติมอีกจะรีบไปค้นหาคำตอบมาให้นะคะ"

"แนวทางกล่าวอย่างไรให้คู่รักนี้" ข้าพระพุทธเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะมีคุณประโยชน์กับท่านผู้อ่ า น ทุกคนนะคะ แล้วก็ขอขอบคุณมากจากดวงใจที่อ่ า น มันจนกระทั่งบรรทัดนี้ แต่สิ่งนี้คงจะเป็นไปได้เพียงแต่ข้อแนะนำสั้นๆที่ถูกเลื่อนหายไปจากฟีตหน้าเ ฟ ส บุ๊ ค ของคุณเพียงแค่นั้น ถ้าหากคุณไม่ลองเปิดใจ
เทคนิคการพูด
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13493/