• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Naprapats

#4801
ยางราคาถูก ศูนย์บริการรถยนต์ เปลี่ยนแปลงยาง ล้างเครื่องปรับอากาศ ถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนแปลงเบรก ซ่อมโช๊ค ยางราคาถูก พวกเราบริการซ่อมรถยนต์ ทุกอี๊ห้อ แปลงกางตเตอร์ปรี่ ราคาถูก ยางราคาถูก ล้างเครื่องปรับอากาศ ประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหารถยนต์ ยางราคาถูก อู่ซ่อมรถยนต์ คุณภาพดี ไกล้บ้านท่าน อะไหล่รถยนต์ ราคาประหยัด
https://shorturl.at/inEK8
#4802
ยางราคาถูก ศูนย์บริการรถยนต์ เปลี่ยนแปลงยาง ล้างแอร์ ถ่ายน้ำมันเครื่อง แปลงเบรก ซ่อมโช๊ค ยางราคาถูก เราบริการซ่อมแซมรถยนต์ ทุกอี๊ห้อ เปลี่ยนแปลงกางตเตอร์รี่ ราคาไม่แพง ยางราคาถูก ล้างแอร์ ประสิทธิภาพ ขจัดปัญหารถยนต์ ยางราคาถูก อู่ซ่อมรถยนต์ คุณภาพดี ไกล้บ้านท่าน อะไหล่รถยนต์ ราคาย่อมเยา
https://shorturl.at/rxzP0
#4803
นายนิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุน VI ระบุว่า ตอนนี้ได้นำเงินปันผลที่ได้จากการลงทุนตลาดหุ้นไทยไปลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามทั้งหมด เพราะตลอด 10 ปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยค่อนข้างซบเซา และประเด็นเรื่องการเมืองในประเทศยังวุ่นวาย หากการจัดตั้งรัฐบาลไม่ราบรื่นอาจพิจารณาเพิ่มสัดส่วนลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามเพิ่มขึ้นตลาดหุ้นเวียดนามมีโอกาสสูงในการเติบโตต่อเนื่อง เหมาะกับการลงทุนระยะยาว ซึ่งในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้าคาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามโตแซงไทยได้ เนื่องจากปัจจัยด้านบุคลากรในประเทศที่มีจำนวนมากกว่าไทย อีกทั้งเป็นบุคลลากรที่มีคุณภาพ ซึ่งปัจจุบันเวียดนามผลิตวิศวกรได้ติด Top 5 ของโลกเช่นเดียวกับโปรแกรมเมอร์ที่มีจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งส่วนประชากรส่วนใหญ่อยู่ในช่วงวัยทำงานในแง่ของฐานการผลิต บริษัทใหญ่ระดับโลกเช่น Nike Lego ต่างย้ายฐานการผลิตมาที่เวียดนาม นอกจากนี้เริ่มมีบริษัทเทคโนโลยีไปตั้งฐานในเวียดนามมากขึ้นเช่นกัน ในแง่ภูมิประเทศก็ค่อนข้างโดดเด่น ภูมิประเทศค่อนข้างได้เปรียบเพราะอยู่ในพื้นที่ทะเลเปิดสามารถเชื่อมต่อกับเกาหลี ญี่ปุ่นหรืออีกหลายประเทศได้และแผ่นดินมีความอุดมสมบูรณ์มากกว่าไทยอย่างไรก็ตามปัจจัยที่น่ากังวลคือเรื่องการเมืองในประเทศ เนื่องจากเวียดนามยังปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ ซึ่งมีความกังวลว่าอาจจะมีการเปลี่ยนนโยบายแบบจีน รวมทั้งความเสี่ยงเรื่องเสถียรภาพของค่าเงินที่ยังมีความผันผวนอยู่นายเจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บลน.ฟินโนมีนา เผยว่า ตอนนี้ตลาดหุ้นเวียดนามเป็นเพียงไม่กี่ตลาดที่อยู่ในโซนถูกและดี เนื่องจากปัจจัยโครงสร้างของเวียดนามที่สนับสนุนการเจริญเติบโตระยะยาวที่แข็งแกร่ง แม้ระยะสั้นถูกกระทบบ้างจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวตามวัฎจักร ซึ่งดัชนีราคาหุ้นเวียดนามได้ซึมซับสิ่งเหล่านี้ไปมากแล้วเวียดนาม คาดการณ์การเติบโตระดับสูงที่ 5.8% ในปี 2566 และ 6.5% ในปี 2567 เหนือกว่าเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นเวียดนาม VN30 สามารถปรับตัวขึ้นเหนือ MA 200 วัน สะท้อนมุมมองเชิงบวกของนักลงทุน ขณะเดียวกัน Forward P/E ของ VN30 Index ยังอยู่ที่ 10.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 10 ปีที่ 12.25 เท่า และต่ำกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นโลกที่ 16.4 เท่า ทำให้มูลค่าตลาดหุ้นเวียดนามตอนนี้ อยู่ในระดับน่าสนใจเมื่อเทียบกับหุ้นโลก หนุนโอกาสสร้างผลตอบแทนในครึ่งปีหลังทั้งนี้ บลจ.พรินซิเพิล เผยข้อมูลว่า มูลค่าการซื้อขายต่อวันของนักลงทุนรายย่อยปัจจุบัน เพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ปี 2563 นอกจากนี้สัดส่วนการถือครองสินทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาตินับตั้งแต่ต้นปี 2565 ก็เติบโตเช่นเดียวกันอย่างไรก็ตามแม้ในระยะสั้นภาวะเศรษฐกิจเวียดนามจะได้รับผลกระทบจากภาคการส่งออกที่อ่อนแอตามเศรษฐกิจโลก แต่ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลดอัตราดอกเบี้ย และสัญญาณการฟื้นตัวของภาคการผลิตและการบริโภค บลจ.พรินซิเพิลมรมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นเวียดนามในช่วงครึ่งปีหลังนายวศิน ปริธัญ หัวหน้าฝ่ายการลงทุน บลน.ฟินโนมีนา กล่าวถึงความกังวลว่าการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามมีความเสี่ยงสูง ซึ่งหากมองจากความผันผวนของราคาในอดีต และการที่เวียดนามยังถูกจัดว่าเป็นตลาดชายขอบ (frontier market) พอจะสะท้อนว่าความเสี่ยงสูงจริง แต่ในมุมมองของ asset allocation การนำหุ้นเวียดนามมาเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตจะทำให้ผลตอบแทนคาดหวังเทียบกับความเสี่ยงสูงขึ้นด้วยโอกาสการเติบโตระยะยาวที่สูงกว่าตลาดอื่น แต่ค่าความสัมพันธ์ของราคาหุ้นเทียบกับตลาดหุ้นโลกต่ำ ทำให้การลงทุนในเวียดนาม เป็นทั้งการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มและทำให้พอร์ตกระจายความเสี่ยงดีขึ้น โดยเฉพาะหากนักลงทุนได้ลงทุนในกลุ่มหุ้นผันผวนสูง เช่น กลุ่มหุ้นเทคโนโลยี อยู่มากแล้ว
#4804
    ในวันที่เรามีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน แต่มีเรื่องสำคัญและจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วน 'สินเชื่อส่วนบุคคล' นับเป็นหนึ่งในทางเลือกที่อาจช่วยเพิ่มสภาพคล่อง ตอบโจทย์ชีวิตคุณได้ แต่ทุกการตัดสินใจก็ย่อมมีผลตามมา เช่น ภาระหนี้สิน กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ชวนทำความรู้จักกับ 'สินเชื่อส่วนบุคคล' ตัวช่วยในวันที่เกิดเรื่องฉุกเฉินด้านการเงิน พร้อมคำแนะนำดี ๆ เพื่อเป็นแนวทางเบื้องต้นก่อนตัดสินใจสินเชื่อส่วนบุคคล เป็นแหล่งเงินฉุกเฉินที่อนุมัติให้ผู้ขอสินเชื่อสามารถนำเงินก้อนไปใช้จ่ายในเรื่องที่ต้องการได้โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ในการค้ำประกัน
สินเชื่อส่วนบุคคลเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับกลุ่มคนวัยทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีรายได้ประจำ เช่น พนักงานบริษัท และกลุ่มเจ้าของกิจการหรือผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ เช่น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ฟรีแลนซ์ เป็นต้น ปัจจุบัน สถาบันการเงินต่าง ๆ นำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลหลากหลายรูปแบบเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า โดยหนึ่งในผลิตภัณฑ์ยอดนิยม คือ 'บัตรกดเงินสด' ทั้งนี้ สถาบันการเงินจะพิจารณาให้สินเชื่อจากวงเงินที่ต้องการขอ, เอกสารหรือข้อมูลแสดงรายได้, ภาระหนี้สินในปัจจุบัน รวมทั้งประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมาของผู้ขอสินเชื่อแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า สินเชื่อส่วนบุคคลเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะกับเราหรือไม่และควรขอสินเชื่อเท่าไร ก่อนตัดสินใจ ลองถามตัวเองง่าย ๆ กับ 'Checklist 5 ข้อ?ก่อนคิดขอสินเชื่อส่วนบุคคล'
[list=1]
  • อยากขอสินเชื่อไปทำอะไร ? - แนวคิดพื้นฐานก็คือ 'คิดก่อนใช้ ใช้เท่าที่จำเป็น' ก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อ ลองถามตัวเองก่อนว่า ต้องการเงินก้อนนี้ไปทำอะไร จำเป็นจริง ๆ หรือไม่ เช่น ขอสินเชื่อเพื่อไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลก้อนใหญ่ เพื่อเป็นเงินทุนในการทำธุรกิจ หรือเพื่อรีไฟแนนซ์ลดภาระดอกเบี้ย เป็นต้น และควรถามตัวเองด้วยว่า สามารถรับผิดชอบภาระหนี้สินที่จะตามมาได้หรือไม่
  • ควรขอสินเชื่อวงเงินเท่าไร? - แน่นอนว่า ใคร ๆ ก็อยากได้เงินก้อนใหญ่ แต่ต้องคิดก่อนว่า เงินก้อนนี้จะตามมาด้วยภาระดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน การกำหนดวงเงินที่ต้องการขอสินเชื่อส่วนบุคคลให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ ปกติแล้ว วงเงินสินเชื่อที่สถาบันการเงินอนุมัติ มักจะไม่เกิน 3-5 เท่าของรายได้ โดยเราควรจะคำนวณก่อนว่า หากหักค่าใช้จ่ายประจำ ค่ากินอยู่ในแต่ละเดือนแล้ว เราต้องสามารถรับผิดชอบจ่ายคืนเงินที่ต้องผ่อนชำระในแต่ละเดือนได้โดยไม่ลำบาก หากคำนวณแล้วคิดว่าอาจผ่อนชำระไม่ไหว อาจลดวงเงินที่จะขอสินเชื่อลง หรือยืดระยะเวลาในการผ่อนชำระให้นานขึ้น เพื่อลดภาระหนี้สินในแต่ละเดือนให้บริหารเงินได้คล่องตัวขึ้น
  • จะชำระเงินคืนได้เมื่อไร? - เมื่อขอสินเชื่อมาแล้วอย่านิ่งนอนใจ เพราะแต่ละวันที่ผ่านไปก็หมายถึงภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ขั้นตอนต่อไปจึงควรวางแผนวิธีชำระเงินคืนและจัดสรรเงินใช้จ่ายอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลัง
  • แต่ละเดือน สามารถจ่ายคืนได้ตามกำหนดเวลาหรือไม่? - กรอบเวลาวันเริ่มและสิ้นสุดการชำระเงินคืน กำหนดให้เรารู้จักรับผิดชอบวางแผนชำระคืนให้ตรงเวลา เพราะหากพลาดไปอาจเกิดภาระดอกเบี้ยตามมา ดังนั้น ก่อนขอสินเชื่อส่วนบุคคลจึงควรมั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการได้ ไม่ผิดนัดชำระเงินคืนในแต่ละเดือน โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีรายได้ประจำ เพื่อรักษาวินัยทางการเงินของตัวเองไว้
  • ควรวางแผนการใช้เงินในแต่ละเดือนอย่างไร? - แต่ละเดือนเราควรวางแผนการใช้เงินเพื่อให้เห็นภาพรวมการใช้จ่ายของตัวเอง อย่างน้อยที่สุดเราต้องรู้รายรับ, รายจ่าย, ยอดหนี้ที่ต้องชำระคืน หากทำแบบนี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เรารู้ความสามารถในการชำระหนี้ของตัวเอง และสามารถหาทางปลดหนี้ได้เร็วขึ้น โดยอาจหาช่องทางหารายได้เสริม หรือลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลง เพื่อประหยัดเงิน เพิ่มสภาพคล่อง เพื่อให้เราหมดภาระหนี้สินได้เร็วขึ้น
แนวทางข้างต้นไม่เพียงเป็นหลักให้คิดก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น หากแต่ยังช่วยเพาะบ่มนิสัยสร้างวินัยทางการเงินที่ดีให้เกิดกับตัวคุณได้ด้วย เพราะท้ายที่สุดวินัยทางการเงินที่ดีจะเป็นหลักยึดให้คุณสามารถจัดการเรื่องการเงินของตัวเองได้อย่างมีสติอยู่เสมอ
#4805
นางสาววรรณจันทร์ อึ้งถาวร รองกรรมการผู้จัดการ สายการลงทุน บลจ. ยูโอบี มองว่า เศรษฐกิจหลักของโลกอย่างสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลดลงน้อยกว่าที่คาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคบริการและการบริโภคที่ยังคงขยายตัวได้ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งเป็นผลมาจากภาคการจ้างงานที่ยังดี และอัตราการเติบโตของค่าแรงที่ยังคงเติบโต นอกจากนี้ระดับเงินออมที่อยู่ในระดับสูงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีกว่าคาดถึงแม้ธนาคารกลางจะใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นในประเทศพัฒนาแล้วปรับสูงขึ้น ในไตรมาสสองที่ผ่านมา เป็นผลมาจากความกังวลจากประเด็นการล้มละลายของ Regional Bank ในสหรัฐฯ ที่คลี่คลายรวมถึงกระแสการตื่นตัวการลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ Robotics & AI ซึ่งทำให้ให้หุ้นกลุ่มเติบโต (Growth Stock) ปรับตัวได้อย่างโดดเด่นอย่างไรก็ดีในช่วงท้ายไตรมาส ตลาดหุ้นมีการพักฐานหลังจากธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม ในขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดกลับมากังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวอีกครั้ง สำหรับตลาดหุ้นประเทศเอเชียไม่รวมญี่ปุ่นนั้นปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมาหลังข่าวดีเกี่ยวกับการเปิดประเทศเริ่มหมดไป ประกอบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนที่ช้ากว่าคาดทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในครึ่งปีหลังคือ1) อัตราเงินเฟ้อที่แม้ว่าจะปรับตัวลดลง แต่มีโอกาสที่จะคงอยู่ในระดับสูงโดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน มีแนวโน้มปรับตัวลดลงช้ากว่าที่คาด เป็นผลมาจากภาคการจ้างงานที่ยังคงตึงตัวอยู่2) ความสอดคล้องกันระหว่างการดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐที่ต้องสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมอัตราเงินเฟ้อและการบริหารความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย3) กำไรบริษัทจดทะเบียน ที่อาจได้รับผลจากนโยบายการเงินและสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งอาจจะนำไปสู่การปรับคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนลงได้อีกสำหรับเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2/2566 ยังคงอยู่ในทิศทางของการฟื้นตัว ซึ่งมาจากกิจกรรมภาคการบริการที่ขยายตัวต่อเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศและต่างชาติที่เพิ่มขึ้น เอื้อต่อการบริโภคภาคเอกชนและตลาดแรงงาน อย่างไรก็ตาม ภาคการส่งออกยังคงปรับตัวลดลงเนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้อุปสงค์จากต่างประเทศลดลง และสอดคล้องกับภาคอุตสาหกรรมที่แม้ว่ายังอยู่ในเกณฑ์ขยายตัวแต่โมเมนตัมอาจเริ่มชะลอตัวลง ซึ่งสะท้อนจากตัวเลข Man.cturing PMI ที่ปรับตัวลดลงจากระดับ 59.9 ในเดือนเมษายน เป็น 58.6 ในเดือนพฤษภาคม ในขณะที่การลงทุนหรือการใช้จ่ายของภาครัฐที่ชะลอตัวในช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจด้านเงินเฟ้อของไทยยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ ซึ่งสะท้อนจากตัวเลข Core CPI MoM +0.06% ในเดือนพฤษภาคม เราจึงคาดว่าการดำเนินนโยบายทางการเงินของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ยังคงมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และสามารถทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแบบค่อยไปค่อยไปตามตัวเลขเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริง นอกจากนี้แรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรักษาเสภียรภาพเงินบาทมีน้อยลง เนื่องจากวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้วนางสาววรรณจันทร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย ปัจจุบัน P/E (ไม่รวม DELTA) ต่ำมากประมาณ 14 เท่า โดยปรับประมาณการกำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่ 92 บาท จากเดิม 106 บาท ซึ่งเห็นว่าน่าจะใกล้จุดต่ำสุด (Bottom) แต่เพราะ Sentiment ตลาดยังมีความไม่แน่นอนเรื่องการเมืองในประเทศ แต่หากมีความชัดเจนมากขึ้นได้เห็นภาพคณะรัฐมตรีรัฐบาลใหม่ ก็มาประเมินกันอีกครั้ง โดยมองว่า หุ้นไทยต่ำกว่า 1,500 จุดเป็นระดับที่น่าเข้าสะสม เพราะยังมีหุ้นปันผลที่น่าสนใจ เลือกหุ้นรายตัว โดยมองในกรณีดีสุด ดัชนี SET ปีนี้อยู่ที่ 1,620 จุด แต่กรณีแย่สุด SET อาจลงไปต่ำสุด 1,400 จุดจากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น บลจ. ยูโอบี จึงมีมุมมองว่า การเติบโตของเศรษฐกิจในกรณีพื้นฐาน (Base Case) จะเป็นในลักษณะที่มีการชะลอตัวแบบไม่รุนแรง (Soft Landing) ซึ่งการบริหารความเสี่ยงท่ามกลางสภาวะที่มีความไม่แน่นอนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และนักลงทุนไม่ควรที่จะกลัวการลงทุนมากไป พร้อมทั้งควรเน้นการคัดสรรหลักทรัพย์ที่จะลงทุนและการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนควบคู่กันไปด้วยทั้งนี้ บลจ. ยูโอบี แนะนำให้ลดเงินสดและเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนทั่วโลก เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนในตราสารหนี้ที่น่าสนใจในช่วงวัฏจักรการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะผ่านจุดสูงสุดโดยเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ระดับ Investment Grade ที่มีคุณภาพเพื่อลดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ในระยะข้างหน้าที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวสูง และปรับน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีกว่าคาดในขณะเดียวกันได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศในฝั่งเอเชียที่แม้ว่ามีมูลค่าที่น่าสนใจแต่ตลาดได้รับรู้ปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศไปแล้ว และการฟื้นตัวในระยะข้างหน้ายังต้องเผชิญกับความท้าทายที่มากขึ้นด้านนายกุลฉัตร จันทวิมล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายพัฒนาธุรกิจ บลจ. ยูโอบี ได้ให้ความเห็นต่อการจัดพอร์ตการลงทุนว่า สำหรับตลาดในประเทศที่พัฒนาแล้ว เรามองว่านักลงทุนได้เปลี่ยนโฟกัสจากความเสี่ยงในการดำเนินนโยบายทางการเงินมายังความเสี่ยงจากเศรษฐกิจถดถอย (Recession) และยังมีโอกาสที่นักวิเคราะห์จะปรับคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนลงได้อีก (Earnings Downgrade) ดังนั้นการลงทุนต้องเน้นไปยังกลุ่มที่ความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดและกำไรที่สม่ำเสมอ (Quality & Visibility of Earnings) และมีพื้นฐานรองรับในการเติบโตที่ชัดเจน (Secular Growth)อย่างเช่นกลุ่ม อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านกองทุน UEV-M ที่ลงทุนผ่านกองทุนหลักที่มีนโยบายลงทุนในบริษัทที่มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับการผลิตแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้า ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำทั่วโลก รวมถึงการลงทุนในกองทุน UBOT ที่ลงทุนผ่านกองทุนหลักที่มีนโยบายเน้นลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ ที่ได้รับอานิสงส์จากกระแส ChatGPT ที่กระตุ้นให้เกิดการลงทุนเพื่อพัฒนา AIนอกจากนี้ ในภาพระยะกลางเราเชื่อว่าหากเกิด Recession ขึ้น ในช่วงครึ่งปีหลังตลาดจะค่อย ๆ Priced In ไปยังวัฏจักรเศรษฐกิจการฟื้นตัวในระยะถัดไปและเปิดโอกาสให้หุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นในกลุ่มที่กว้างขึ้นได้ โดยแนะนำให้ลงทุนในกลุ่ม Mid-Small Cap หรือ Cyclical Play ที่ยัง Laggard และมี Valuation ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงของตลาดหรือต้องลงทุนในระหว่างรอจังหวะการลงทุน บลจ. ยูโอบี แนะนำ กองทุนรวมตลาดเงิน คือ กองทุนเปิด ไทย แคช แมเนจเม้นท์ (TCMF-M) ระดับความเสี่ยง 1 ที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ และ/หรือเงินฝาก หรือตราสารหนี้เทียบเท่าเงินฝาก โดยจะลงทุนในตราสารทั้งภาครัฐ และ/หรือภาครัฐวิสาหกิจ ที่มีความมั่นคงและมีสภาพคล่องสูงเป็นหลักและหากสามารถรับความเสี่ยงและต้องการกระแสรายได้สม่ำเสมอ จากการลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลก แนะนำลงทุนในกองทุนเปิด ยูไนเต็ด อินคัม ฟันด์ (UINC) ระดับความเสี่ยง 5 กองทุนลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ JPM Income Fund C (acc) ? USD (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกระแสรายได้อย่างสม่ำเสมอผ่านการลงทุนในตราสารหนี้ โดยจะกระจายการลงทุนไปยังตราสารหนี้ประเภทต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลก กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ หรือและกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกล.อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ (UGIS) ระดับความเสี่ยง 6 กองทุนลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ PIMCO GIS Income Fund (Class I) (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกระแสรายได้ในระดับสูงโดยการบริหารการลงทุนอย่างรอบคอบ และมีวัตถุประสงค์ในการสร้างการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว มีหลักการกระจายการลงทุนไปในตราสารหนี้ประเภทต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลก กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศสำหรับผู้ที่หวังผลตอบแทนในระยะยาวจากการลงทุนในหุ้น แนะนำลงทุนในหุ้นทั่วโลกในอุตสาหกรรมที่ได้รับปัจจัยบวกจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ได้แก่
  • กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกล. อินโนเวชั่น ฟันด์ (UNI-M) ระดับความเสี่ยง 6 กองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนต่างประเทศที่ออกโดยบริษัททั่วโลก รวมถึงประเทศในตลาดเกิดใหม่ โดยเป็นตราสารทุนของบริษัทที่เกี่ยวข้องหรือได้รับผลประโยชน์จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมและหรือเทคโนโลยีใหม่ โดยพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
เป็นบริษัทผู้นำด้านนวัตกรรมที่มีศักยภาพในการสร้างผลิตภัณฑ์ หรือนวัตกรรมทางธุรกิจใหม่ และ/หรือเป็นบริษัทผู้นำทางด้านเทคโนโลยีที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนา หรือใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี และ/หรือเป็นบริษัทที่มีการพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์ กระบวนการ หรือบริการ อันจะนำมาซึ่งประโยชน์จากความก้าวหน้า และการพัฒนาทางเทคโนโลยี กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกล. ซัสเทนเนเบิล อินฟราสตรัคเจอร์ อิควิตี้ ฟันด์ (UINFRA) ระดับความเสี่ยง 6 กองทุนจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF) ตราสารทุนต่างประเทศ ที่มีนโยบายการลงทุนที่เน้นการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก และมีแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน โดยกระจายการลงทุนในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งนี้ สัดส่วนการลงทุนในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทจัดการตามสภาวะการลงทุนหรือการคาดการณ์สภาวะการลงทุนในแต่ละขณะ โดยจะมี net exposure ในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF) ตราสารทุนต่างประเทศที่มีนโยบายลักษณะดังกล่าวข้างต้น โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
-กองทุนเปิด ยูไนเต็ด แบตเตอรี่ แอนด์ อีวี เทคโนโลยี ฟันด์ (UEV-M) ระดับความเสี่ยง 6 กองทุนจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF) ตราสารทุนต่างประเทศ ที่มีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์และ/หรือตราสารของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสายการผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งครอบคลุมถึงการทำเหมืองไปจนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่และการผลิตแบตเตอรี่ และ/หรือบริษัทที่ดำเนินการและ/หรือได้รับประโยชน์จากการพัฒนาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่งในอนาคต เช่น รถยนต์, ยานพาหนะไฟฟ้า และ/หรือเทคโนโลยีดิจิตอลที่ใช้ในการขนส่ง เช่น การขับขี่อัตโนมัติ เป็นต้น โดยกระจายการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก ทั้งนี้ สัดส่วนการลงทุนในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทจัดการตามสภาวะการลงทุนหรือการคาดการณ์สภาวะการลงทุนในแต่ละขณะ กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โรโบติกส์ & อาร์ติฟิเชียล อินเทลลิเจนซ์ อีทีเอฟ (UBOT) ระดับความเสี่ยง 6 กองทุนลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ Global X Robotics & Artificial Intelligence ETF (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนหลักเป็นกองทุนรวมประเภท ETF ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ประเทศสหรัฐอเมริกา กองทุนนี้มีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ
  • กองทุนเปิด ยูไนเต็ด อิควิตี้ ซัสเทนเนเบิล โกล. ฟันด์ (UESG-M) ระดับความเสี่ยง 6 กองทุนลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ Robeco Sustainable Global Stars Equities IL EUR (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์การลงทุนมุ่งหวังสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวและส่งเสริมการลงทุนด้าน ESG โดยกองทุนหลักมีการนำปัจจัยด้าน ESG เข้ามาพิจารณาใช้ในกระบวนการลงทุน และยังมุ่งหวังที่จะมีฟุตพริ้นท์ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Footprint) ที่ดีกว่า Benchmark กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
#4806
    หุ้น PTG ร่วง 8.62% หรือลดลง 1.00 บาท มาอยู่ที่ 10.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 369.61 ล้านบาท เมื่อเวลา 14.47 น. โดยเปิดตลาดที่ 11.70 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 11.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 10.50 บาทวานนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบแนวทางการดำเนินมาตรภาษีสรรพสามิตเพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาดีเซล หลังจากรัฐบาลใช้มาตรการภาษีดีเซลเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยรักษาระดับราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 35 บาท ด้วยการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลงลิตรละ 5 บาทมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ก.พ.65 แต่มาตรการจะสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.ค.66 ซึ่งจะส่งผลให้อัตราภาษีจะกลับสู่ระดับปกติบล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มองเป็น negative sentiment จากความไม่แน่นอนของนโยบายราคาน้ำมันซึ่งยังต้องรอรัฐบาลใหม่เข้ามาจัดการ ทำให้
ยังมีความเสี่ยงที่ราคาอาจปรับขึ้นแม้มีกองทุนน้ำมันคอยช่วยเหลือ และกระทบ sales volume ของผู้ประกอบการปั้มน้ำมัน เรามองหุ้นที่ได้รับ negative sentiment คือ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) แต่ยังแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 18.50 บาท และ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 25.00 บาท

 ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ที่ปรับปรุงระยะเวลาและรายละเอียดในการรายงานการถือครองหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของกรรมการ ผู้บริหาร และผู้สอบบัญชีของบริษัทจดทะเบียนเพื่อลดการรายงานที่ซ้ำซ้อนและเพิ่มความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น ตามแนวทาง Regulatory Guillotine* โดยผู้ที่ใช้ข้อมูลยังได้รับข้อมูลที่เพียงพอในระยะเวลาที่เหมาะสมตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้ทบทวนหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการรายงานการถือครองหลักทรัพย์ (ได้แก่ หุ้น และหลักทรัพย์แปลงสภาพ) หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ของกรรมการ และผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงของผู้สอบบัญชี** และเสนอแนวทางการปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อลดการรายงานที่ซ้ำซ้อนและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผู้มีหน้าที่รายงาน ในขณะที่ผู้ใช้ข้อมูลยังได้รับข้อมูลที่เพียงพอและในระยะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งได้นำข้อเสนอแนะที่ได้จากการเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักการต่อเรื่องดังกล่าวเมื่อปลายปี 2565 มาปรับปรุงถ้อยคำของหลักเกณฑ์ให้มีความชัดเจนขึ้น ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศซึ่งได้ปรับปรุงรายละเอียดเพิ่มเติมโดยมีสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
[list=1]
  • การปรับปรุงระยะเวลารายงานในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง โดยยืดระยะเวลาการรายงานให้แก่รายการขนาดเล็ก และสามารถรวมรายการขนาดเล็กเพื่อรายงานในคราวเดียวกันได้
  • การยกเว้นการรายงานของกรรมการหรือผู้บริหารที่เป็นคู่สมรสหรือผู้ที่อยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา ที่เป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทจดทะเบียนเดียวกัน หากรายใดรายหนึ่งรายงานต่อ ก.ล.ต. แล้ว ก็ถือว่าครบถ้วนเพื่อลดความซ้ำซ้อนของการรายงาน
  • การยกเว้นหน้าที่ในการรายงานในกรณีที่หลักทรัพย์ หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่นำไปวางไว้เป็นหลักประกันถูกขายทอดตลาด หรือ force sell เนื่องจากเป็นการดำเนินการโดยบุคคลอื่น ซึ่งอาจทำให้ผู้เป็นเจ้าของไม่สามารถรายงานต่อ ก.ล.ต. ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
  • การกำหนดวันในการรายงานกรณีได้รับหุ้นเพิ่มทุนและหลักทรัพย์แปลงสภาพในประกาศให้มีความชัดเจน
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวบนเว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=920 ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถศึกษาและแสดงความคิดเห็นได้ผ่านช่องทางเว็บไซต์ ก.ล.ต. หรือ e-mail corporat@sec.or.th จนถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2566
#4807
ธุรกิจ งาน / ไก่ตัน
July 12, 2023, 05:09:04 PM
ขายไก่ตัน จำหน่ายไก่ตัน ราคาถูก ไก่ตัน5บาท ไก่ตัน blox fruit ไก่ตัน
https://robux888.com
#4808
VPS SSD VPS รายวัน VPS รายเดือน ddc server ราคาถูก
1.เช่าเครื่องโดยระบบอัตโนมัติกด> : https://sun-vps.com/
2.วีดีโอสอนเช่าเครื่องผ่านเว็บ : https://bit.ly/2Xj5Ukh
#4809
ครัวบ้านยาย™ถ้ำสนุก
ขอรับรีวิวจากคุณลูกค้า โดยคุณลูกค้าไม่จำเป็นต้องใช้อีเมล Gmail เพื่อเขียนรีวิว หากลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google แล้ว
คลิ้กลิงค์รีวิว : https://bit.ly/41uQQ2n
#4811
Facebook : CCT Fitness นำเข้าเครื่องออกกำลังกาย
Tel: 089-750-7380
สนใจชมตัวอย่างสินค้า >> https://goo.gl/maps/RBNaNTLmk8LD3T2A8
#4815
GEO Technical ปรึกษาฟรี
https://www.naaychang.com/p/10