• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ผู้ที่ประสบความสำเร็จ เป็นเจ้าคนนายคนชอบคิดอย่างนี้

Started by Shopd2, April 06, 2023, 06:32:54 PM

Previous topic - Next topic

Shopd2

ในขณะที่ยังเป็นผู้เรียน หลายคนต่างเชื่อเสมอว่าหากได้ตั้งอกตั้งใจเรียน สอบติดภาควิชาที่ใช่

ยิ่งได้โอกาสได้งานที่ดี ค่าตอบแทนรายเดือนที่ดี และก็ยิ่งเป็นอาชีพที่ใครกันแน่ก็รู้จักเช่น ข้าราชการ, วิศวกร


นักธุรกิจยิ่งน่าภูมิใจไปใหญ่ เพราะนอกจากค่าตอบแทนรายเดือนที่ได้ ส ม น้ำ ส ม เ นื้ อ มีจำนวนไม่น้อยพอที่จะอุดหนุน


ครอบครัวได้ มีสวัสดิการรองรับให้เป็นสุขยังเป็นอาชีพที่จัดว่า "มีหน้ามีตา" ใครกันแน่ก็ต้อนรับกันหมด

แต่ว่าในโลกของเรื่องจริงแล้ว อาชีพที่ "มีหน้ามีตา" ในสังคม มิได้เหมาะกับทุกคนเสมอ

แล้วก็ในแต่ละอาชีพ เขาก็มีการระบุอัตรารับสมัครแต่ละปีที่ออกจะจำกัดน่ะสิ !

"แล้วจะเรียนไปเพราะเหตุใด ถ้าในที่สุดก็ได้งานที่ไม่ตรงสาย/ งานที่น้อยคนจะรู้จัก/ ค่าจ้างรายเดือนที่ไม่ได้มากอะไร ?"

ปัญหานี้จะได้คำตอบที่ เ ค รี ย ด มากมายเลย เพราะเหตุว่ามันเต็มไปด้วยความคาดหมายที่มีความรู้สึกว่า

"เรามีทางเลือกอยู่ไม่กี่อย่างในชีวิต" แต่ว่าหากลองกลายเป็นความคิด "ฉันดำเนินการอะไรก็ได้


ไม่ว่าจะตรงสายหรือไม่ก็ตาม" มันอาจดูประโยคขี้แพ้ในสายตาบางบุคคล


แต่ว่าถ้าหากคิดๆดูแล้ว มันได้เรื่องสบายใจ มากกว่าการเสนอคำถามแบบแรกเพราะข้อเท็จจริงของชีวิตเป็น

1. มนุษย์ทุกคนมีความสามารถในตนเอง "ต่างกัน" กันไปเราไม่จำเป็นต้องเก่งเช่นกันหมด

2. ในรั้วโรงเรียน- ม ห า วิ ท ย า ลั ยต่อให้เราได้เรียนกับอาจารย์ที่เก่งขนาดไหน

ขอบเขตความรู้มันก็เป็นเพียงแค่วิชาความรู้ในรั้วเพียงแค่นั้นโลกของวัยผู้ใหญ่ที่โตขึ้น เรายังจำเป็นต้องทราบเหตุการณ์อีกมาก

ทำความเข้าใจกันอีก ย า ว ลองถูกลองผิดกันอีกเยอะแยะดังนั้น จะมา ฟั น ธ ง ว่าเรียนมาสายวิทย์

จะต้องทำงานสายวิทย์ เรียนสายภาษาจะต้องทำงานสายภาษา มันก็ไม่ถูกเสมอไป

3. มันเป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์เราจึงควรวิ่งตามหาสิ่งที่ "ใช่"

เบาๆเรียนรู้ ค่อยๆปรับพฤติกรรมไป สิ่งที่เรากำลังบันเทิงใจในขณะนี้ บางทีอาจจะยังไม่ใช่ที่สุด

สิ่งที่เราเก่งตอนนี้ ในภายหน้า มันอาจเป็นเพียงแต่ความจำ

ด้วยเหตุว่าอาจมีหลายต้นสายปลายเหตุให้คิดมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น จำเป็นที่จะต้องพับแผนการเรียนต่อเอาไว้

เนื่องจากเงินไม่เพียงพอจะต้องปฏิบัติงานหารายได้ก่อน และก็หลังจากนั้นจึงค่อยไปเรียนศิลปะที่พวกเราถูกใจ ...

เราจำต้องมองจังหวะของชีวิตด้วย (สิ่งที่มีความต้องการของชีวิตแต่ละช่วง


4. สิ่งที่พวกเราเรียนมาเป็นสิบเป็นร้อยกว่าวิชา มันเป็น "การหล่อหลอม" หลายวิชาไม่ได้

สอนพวกเราทางตรง แต่ให้พวกเราค่อยๆซึมข้อดีแต่ว่าอย่างไปเอง ยกตัวอย่างเช่น ฝึกฝนความอดทน, ฝึกความละเอียดลออ,

ฝึกหัดทักษะการเข้าสังคมในครั้งหนึ่งที่เรามองไม่เห็นผลดีว่าจะใช้อะไรได้จริง พอโตขึ้นอีกหน่อย

มันก็ควรจะมีบ้างแหละที่เราคิดอะไรขึ้นมาจนต้องไปพบ อ่ า น ปัดฝุ่นหนังสือเรียนอีกรอบ

ทุกความรู้ที่พวกเราได้รับ ไม่เคยสูญเปล่า เพียงแค่พวกเรามองไม่เห็นค่ามันเอง ลองนึกถึงให้ดีสิ !

5. มนุษย์เราต้องมีหนทางให้กับชีวิตไว้หลายด้าน หรือ "มีแผนสำรอง"

เพื่อไม่เป็นการปิ ด กั้ นตนเองจนกระทั่งเกินความจำเป็น เป็นต้นว่า ถ้าวุฒิที่เราเรียนมามันหางาน ย า ก จะยอมรึเปล่าที่เอาวุฒิน้อยกว่านี้หางานไปก่อน?

ถ้าเกิดเราไม่ได้อาชีพนี้ พวกเรายอมได้รึเปล่าที่จะทำอาชีพอื่นไปพลางๆก่อน?

ความฝันสิ่งที่ใช่ มันไม่ควรเป็นสิ่งที่ได้ดุจใจในทันทีทันใดมันคือเรื่องปกติมากมายๆที่จำเป็นต้องแลกกับความอ่อนแรง

ความ พ ย า ย า ม หลายเท่าตัว ก็เลยไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดแม้จะพบว่าเพราะเหตุไร ห ม อ

บางคนถึงเขียนเพลงได้?

เพราะเหตุใดบางบุคคลเรียนวิชาชีพแต่ว่ามาเป็นนักแสดง?

เพราะอะไรบางคนเรียนไม่จบแม้กระนั้นบรรลุเป้าหมาย?

ถ้าเกิดยังไม่เข้าในข้อนี้ ทดลองย้อนกลับไป อ่ า น ข้อ 4 อีกครั้งขึ้นชื่อว่า "วิชาความรู้" พวกเราได้รับมา

ถึงจะไม่ใช้ในทันทีทันใดก็ไม่ควรเสียดาย ขึ้นชื่อว่า "ความฝัน" ถึงจะยังไม่ใช่ในวันนี้

ใช่ว่าวันหน้าจะไม่มีทางเป็นไปได้ มันอยู่ที่ตัวเราล้วนๆว่า... "รู้สึกตัวดีไหมว่าทำอะไรอยู่?" แล้วก็

"พร้อมจะยืดหยุ่นกับทุกเหตุการณ์ชีวิตรึเปล่า?"

อย่ าลืมว่า...โลกพวกเรากลม แล้วก็มีหลายมิติ ใช่ว่าจะต้องมองเพียงด้านเดียว
ข้อคิดชีวิต
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13507/
คำค้นหา : ทำงานไม่ตรงสาย